ทนายคิว ทนายความรับว่าความคดียักยอกทรัพย์  โทร 0959454541   ไลน์ คลิก
          ทนายวีรวัชร์ (คิว)  ทนายความผู้รับทำคดียักยอกทรัพย์  ปรึกษาฟรี วางแผนคดีให้รัดกุม

          หากคุณถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ “ยักยอกทรัพย์” ทั้งที่ไม่มีเจตนา หรือถูกฟ้องในคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สิน ทนายวีรวัชร์ หรือทนายคิว พร้อมให้คำแนะนำ และวางแนวทางต่อสู้เพื่อสิทธิตามกฎหมายของคุณ ด้วยความรู้ ประสบการณ์ ความเข้าใจในคดี และความยุติธรรม

          ทำไมต้องเลือก “ทนายวีรวัชร์” ในคดียักยอกทรัพย์?

          มีประสบการณ์ในการว่าความคดียักยอกทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352) ทั้งฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและผู้เสียหาย

          วิเคราะห์หลักฐานอย่างละเอียด เช่น บัญชี, สัญญา, เอกสารทางการเงิน  เข้าใจพฤติการณ์ของการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิด  เข้าใจการกระทำการว่าเป็นการยักยอกทรัพย์ หรือเหตุในการเอาทรัพย์ไป ว่ายักยอกปรือไม่

          รู้ถึงข้อแตกต่างระหว่าง “ยักยอก” กับ “ลักทรัพย์” หรือ “ฉ้อโกง” เพื่อวางแนวทางต่อสู้ให้ดีที่สุด

         ให้คำปรึกษาฟรีเบื้องต้น และรับว่าความทั่วประเทศ

       คดียักยอกทรัพย์ คืออะไร?

           คดียักยอกทรัพย์คือ การนำทรัพย์ของผู้อื่นซึ่งอยู่ในความครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายไปเป็นของตนเอง หรือเบียดบังไปเพื่อประโยชน์ของตนหรือผู้อื่น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

           การยักยอกทรัพย์ (หรือที่เรียกว่า "เบียดบังเอาทรัพย์สินไป") คือการกระทำที่บุคคลหนึ่งเอาทรัพย์สินของบุคคลอื่นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอาจเป็นการยักยอกทรัพย์นายจ้าง, การยักยอกเงินจากบัญชี, ยักยอกรถยนต์ รถจักรยานยนต์, หรือแม้กระทั่งการยักยอกจากองค์กรธุรกิจ เป็นต้น

          การกระทำเหล่านี้ถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงในหลายประเทศ โดยในประเทศไทย การยักยอกทรัพย์มีโทษทางอาญาหากศาลพิจารณาพบว่าผู้ต้องหามีความผิดจริง

          ทนายความสามารถช่วยคุณได้ ในกรณีเช่น:

     ลูกจ้างยักยอกทรัพย์นายจ้าง

     หุ้นส่วนเบียดบังทรัพย์จากกิจการ

     ข้อพิพาทในครอบครัวที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์มรดก ยักยอกระกว่างสามีภรรรยา หรือบุตรกับบิดามารดา

    หรือถูกฟ้องโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน หรือมีข้อเท็จจริงที่เข้าใจคลาดเคลื่อน 

          ทนายความรับต่อสู้คดียักยอกทรัพย์: การปกป้องสิทธิของคุณในกระบวนการยุติธรรม

          ในยุคที่สังคมเต็มไปด้วยการกระทำผิดกฎหมาย การปกป้องสิทธิของตัวเองในคดีต่าง ๆ โดยเฉพาะในคดียักยอกทรัพย์จึงเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณเป็นผู้ถูกกล่าวหา หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ หรือผู้ที่ถูกเอาทรัพย์ไป การมีทนายความที่มีความรู้และประสบการณ์ในการต่อสู้คดี หรือดำเนินคดีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น 
          ในกรณีคุณเป็นผู้เสียหาย หากถูกเอาทรัพย์ไป แต่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องการยักยอกทรัพย์ คุณอาจเสียสิทธิ เช่น หากไม่ร้องทุกข์ ภายในสามเดือน ก็ไม่อาจดำเนินคดียักยอกทรัพย์ได้อีก หรือ หากให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานสอบสวนผิดพลาด ก็อาจถูกตีความว่า เป็นการให้ยืมเงิน หรือให้ยืมทรัพย์ไป ซึ่งจะทำให้ไม่เข้าความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้      

          การต่อสู้ในคดียักยอกทรัพย์

          หากคุณถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว คุณต้องมีการเตรียมตัวและการปกป้องสิทธิของตัวเองอย่างรอบคอบ การเลือกทนายความที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการต่อสู้คดีในประเภทนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสในการได้รับการพิจารณาอย่างยุติธรรมมากขึ้น

ทนายความที่มีประสบการณ์จะสามารถช่วยเหลือคุณในหลายๆ ด้าน เช่น

1. การตรวจสอบข้อกล่าวหา: ทนายความจะช่วยคุณตรวจสอบและทบทวนหลักฐานทั้งหมดในคดี เช่น เอกสาร, พยานหลักฐาน, หรือการกระทำที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินสถานการณ์และหาวิธีในการป้องกันตัว

2. การหาเหตุผลในการป้องกัน: ทนายความจะช่วยคุณหาข้อเท็จจริงที่อาจช่วยลดความผิด หรือแม้กระทั่งยืนยันว่าไม่มีเจตนาฉ้อโกง หรือถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นความจริง

3. การเจรจาต่อรอง: ในบางกรณี ทนายความสามารถเจรจาเพื่อลดโทษ หรือเสนอการเจรจาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด คดียักยอกทรัพย์ สามารถยอมความได้ หากการเจรจาต่อรองสัมฤทธิ์ผล ก็จะสมประสงค์ทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา

เหตุผลที่ควรมีทนายความ

1. ความรู้ทางกฎหมาย: ทนายความมีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับกฎหมาย และสามารถช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการยุติธรรมได้อย่างถูกต้อง

2. ป้องกันการทำผิดพลาด: ในคดีที่มีความซับซ้อน การทำผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของคดีได้ ทนายความช่วยป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว

3. ช่วยเจรจาต่อรอง: ทนายความสามารถช่วยเจรจาให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า เช่น ตกลงกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องค่าเสียหาย

4. ประสบการณ์ในศาล: ทนายความที่มีประสบการณ์หรือทีมงานที่ดี จะช่วยให้คดีของคุณได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม

      สรุป

          คดียักยอกทรัพย์เป็นคดีอาญาที่สามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและการดำเนินธุรกิจของผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้นการมีทนายความจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้คดีเพื่อปกป้องสิทธิของคุณ การเตรียมตัวอย่างดีและได้รับคำแนะนำจากทนายความที่มีประสบการณ์ สามารถช่วยให้คดีของคุณได้รับการพิจารณาอย่างยุติธรรมที่สุด

          หากคุณกำลังเผชิญกับคดียักยอกทรัพย์หรือข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง ควรขอคำปรึกษาจากทนายความทันทีเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับกระบวนการทางกฎหมายและปกป้องสิทธิของตัวเองให้ดีที่สุด
...........................................................................................

ปรึกษาทนายคดียักยอกทรัพย์ โทร 095944541 ทนายคิว 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา

          มาตรา 352  ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
        ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง

          มาตรา 353  ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทรัพย์สินซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใด ๆ โดยทุจริต จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         

               มาตรา 354  ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๓๕๒ หรือมาตรา ๓๕๓ ได้กระทำในฐานที่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นตามคำสั่งของศาล หรือตามพินัยกรรม หรือในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจ อันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         

              มาตรา 355  ผู้ใดเก็บได้ซึ่งสังหาริมทรัพย์อันมีค่า อันซ่อนหรือฝังไว้โดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ แล้วเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         

               มาตรา 356  ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้