ทนายคิว ทนายผู้ให้คำปรึกษาคดี ฉ้อโกง
ทนายวีรวัชร์ หรือทนายคิว ทนายความที่แนะนำและให้คำปรึกษาคดีฉ้อโกง
คดีฉ้อโกงนั้น มีข้อกฎหมายสำคัญ ดังนี้
1. ผู้ใด
2.หลอกลวง
3.ได้ทรัพย์สินไป หรือได้รับผลประโยชน์ ประการอื่น
การกระทำเช่นว่านั้น ย่อมเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกง ยกตัวอย่างเช่น หลอกว่ายืมเงินเอาไปเพื่อกิจการใดอันเป็นเรื่องเฉพาะ แต่ไม่เอาไปใช้ตามที่บอก และไม่คืนเงิน ย่อมเป็นฉ้อโกง หรือ หลอกเอาเงินไปเพื่อจะลงทุน(ตามมุขมิจฉาชีพปัจจุบัน) แล้วไม่นำไปลงทุน ย่อมเป็นฉ้อโกง หลอกขายของแล้วไม่ส่งของ หรือแม้กระทั้ง หลอกเอาโฉนดที่วางค้ำประกันไป แล้วไม่เอามาคืนก็เป็นฉ้อโกง ดังนั้น ให้พึงระลึกไว้ว่า การหลอกเพื่อเอาทรัพย์ไป เป็นฉ้อโกงเสมอ ดังนั้น ให้พึงระวัง มิใช่คิดว่า เอาเงินไปเอามาคืนก็จบ อันเป็นคนละเรื่องกัน
แต่การต่อสู้ก็มี เช่น ให้ทองคำไปผ่อนโดยรู้รู้แล้วว่า คนเอาทองไป ย่อมเอาไปขาย แต่พยายามบิดข้อเท็จจริงเพื่อให้เข้าฉ้อโกง ยักยอก แทนการยืม การกระทำเช่นนี้ต้องระวัง หากจำเลยนำสืบและศาลเชื่อว่า ต้องการยืมเงิน แต่ให้ทองคำเพื่อหวังบิดข้อเท็จจริง ย่อมไม่เข้าฐานความผิดฉ้อโกง และคนฟ้องจะผิดฐานฟ้องเท็จ เบิกความเท็จแทน
ทนายคิว ในฐานะทนายความที่ทำคดีฉ้อโกงมาบ้าง จึงขอเสนอตัวเพื่อให้ท่านเลือกเป็นทนายความที่ปรึกษา ในการทำคดีฉ้อโกง หากท่านคิดว่าถูกฉ้อโกง หรือหากท่านถูกฟ้องคดีฉ้อโกง แต่ท่านไม่ได้ทำ
ทั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นส่วนหนึง ที่สามารถช่วยท่านให้ได้รับความยุติธรรมสูงสุด ในการดำเนิคดีฉ้อโกงต่อไป
ปรึกษาทนายคิว ทนายคดีฉ้อโกง โทร 095 945 4541
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับคดีฉ้อโกง คือประมวลกฎหมายอาญา ตามที่กล่าวข้างล่างนี้
หมวด ๓
ความผิดฐานฉ้อโกง
-------------------------
มาตรา ๓๔๑ ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๒ ถ้าในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทำ
(๑) แสดงตนเป็นคนอื่น หรือ
(๒) อาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรืออาศัยความอ่อนแอแห่งจิตของผู้ถูกหลอกลวง
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๓ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๓๔๑ ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา ๓๔๒ อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๔ ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปให้ประกอบการงานอย่างใด ๆ ให้แก่ตนหรือให้แก่บุคคลที่สาม โดยจะไม่ใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างแก่บุคคลเหล่านั้น หรือโดยจะใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างแก่บุคคลเหล่านั้นต่ำกว่าที่ตกลงกัน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๕ ผู้ใดสั่งซื้อและบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม หรือเข้าอยู่ในโรงแรม โดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม หรือค่าอยู่ในโรงแรมนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๖ ผู้ใดเพื่อเอาทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่สาม ชักจูงผู้หนึ่งผู้ใดให้จำหน่ายโดยเสียเปรียบซึ่งทรัพย์สิน โดยอาศัยเหตุที่ผู้ถูกชักจูงมีจิตอ่อนแอ หรือเป็นเด็กเบาปัญญา และไม่สามารถเข้าใจตามควรซึ่งสาระสำคัญแห่งการกระทำของตน จนผู้ถูกชักจูงจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๗ ผู้ใดเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการประกันวินาศภัย แกล้งทำให้เกิดเสียหายแก่ทรัพย์สินอันเป็นวัตถุที่เอาประกันภัย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]
มาตรา ๓๔๘ ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา ๓๔๓ เป็นความผิดอันยอมความได้
หรือท่านกำลังมองหา ทนายคดีปลอมเอกสาร ทนายคดียักยอก ทนายคดีหมิ่นประมาท